วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ลายผ้าไหมสุรินทร์



ประวัติความเป็นมา
           จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าไหมมานานและได้สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมานานจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่น่าสนใจยิ่ง  หากศึกษาอย่างลึกซึ่งแล้ว  จะค้นพบเหตุผลหลายประการที่สนับสนุนว่า  จังหวัดสุรินทร์มีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองในเรื่องผ้าไหม  ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ   ซึ่งส่งผลต่อการผลิตและการทอ  ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของผ้าไหม  การผลิตเส้นไหมน้อย  และกรรมวิธีการทอ
          จังหวัดสุรินทร์นิยมนำเส้นไหมขั้นหนึ่งหรือไหมน้อย (ภาษาเขมร เรียก โซกซัก”)  มาใช้ในการทอผ้า  ไหมน้อยจะมีลักษณะเป็นผ้าไหมเส้นเล็ก  เรียบ  นิ่ม  เวลาสวมใส่จะรู้สึกเย็นสบาย  นอกจากนี้การทอผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์  ยังมีกรรมวิธีการทอที่สลับซับซ้อน  และเป็นกรรมวิธีที่ยาก  ซึ่งต้องใช้ความสามารถและความชำนาญจริง  เช่น การทอผ้ามัดหมี่พร้อมยกดอกไปในตัว  ซึ่งทำให้ผ้าไหมที่ได้เป็นผ้าเนื้อแน่นมีคุณค่า  มีการทอที่เดียวใบประเทศไทย  จนเป็นที่สนพระทัยและเป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ  ทรงรับสั่งว่า  ใส่แล้วเย็นสบาย  อีกทั้งยังใช้ฝีมือในการทออีกด้วย
         ภาพของลายผ้าไหมที่มีความสวยงาม ความประณีต ความละเอียดอ่อน และความใสใจของผู้ที่ทอผ้าไหม เพื่อที่จะให้ลายของผ้าแต่ละลายออกมามีความสวยงามน่าประทับใจ และยังเป็นที่น่าภาคภูมิใจมากสำหรับชาวสุรินทร์ของเราที่สามารถมีลวดลายผ้าไหมที่ออกมาสวยงามได้มากขนาดนี้ ตัวอย่างของลายผ้าไหมที่มีความสวยงามละเอียดอ่อน และมีประวัติที่ยาวนาน


ผ้าไหมมัดหมี่เชิงแดงลูกแก้ว
          เป็นผ้าที่แกะรูปแบบจากการแต่งกายของชาวสุรินทร์ในพิธีรำสาก ซึ่งถือเป็นขนมธรรมเนียมประเพณีของชาวสุรินทร์ช้านาน ผ้านุ่งที่ใช้แต่งนั้นเป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่มีการต่อเชิงบน ที่เรียกว่าปะโบว์ เรียกว่า มัดหมี่เชิง ผ้าไหมที่ใช้ในการผลิต เรียกว่า ไหมน้อย พลิ้วไหว อ่อนนุ่ม อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของไหมสุรินทร์


ผ้าไหมลายราชวัตร
          ผ้าไหมยกดอกลายราชวัตร เป็นผ้าไหมที่ทอโดยสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ตอนหลังมีการพัฒนาและประยุกต์เป็นลวดลายต่างๆปัจจุบันการทอผ้าไหมลายราชวัตร โดยใช้สีธรรมชาติและสีเคมีการย้อมสีธรรมชาตินั้นให้เปลือกไม้มาย้อมเป็นสีต่างๆและเป็นที่ต้องการของตลาด


ผ้าไหมยกดอก
          เป็นการทอผ้าด้วยมือ มีลวดลายสวยงานสะดุดตาเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ที่ดีงามของคนไทย จึงจำเป็นต้องรักษาไว้


ผ้าไหมหมัดหมี่ลายลูกแก้ว
          ผ้าไหมมัดหมี่ลายลูกแก้ว เป็นผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติมีลวดลายเป็นทรงพุ่ม ชื่อลายมงกฎเพชร เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา มีการมัดลายที่ประณีต งามตา และมีขั้นตอนการผลิตที่เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคผลิตจากเส้นไหมแท้เป็นสำคัญ


ผ้าไหมมัดหมี่ ลายโฮลเปราะห์
          ผ้าไหมมัดหมี่ ลายโฮลเปราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นจากลายโฮล (โฮลสตรี) เดิมสู่ลายโฮลเปราะห์ (โฮลบุรุษ) เป็นผืนผ้าที่รวมความปรานีตด้วยลวดลายอันวิจิตร ใช้ทักษะขั้นสูงของการมัดย้อมไหมที่ละเอียดและได้สีสันที่สวยงามโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์นิยมใช้นุ่งห่มในงานบุญประเพณีสำคัญ


ผ้าไหมลายอัมปรม
          ผ้าไหมลายอัมปรม ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ทอผ้าด้วยมือ มีความประณีต ทุกกระบวนการผลิต สั่งสมภูมิปัญญาท้องถิ่นและประยุกต์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความต้องการในปัจจุบันได้อย่างลงตัว เส้นไหมที่ทอเป็นเส้นไหมแท้ ที่ชาวบ้านเลี้ยงเองในชุมชน


ผ้าไหมยกดอก
          ผ้ายกดอกลวดลายสวยงาม เป็นการทำลายโดยการเก็บตะกอ โดยลายจะนูนมาเหนือผ้า ผ้ายกเป็นผ้าที่มีคุณค่ามากเป็นผ้าชั้นสูงที่เหมาะสำหรับสวมใส่ออกงานพิธีสำคัญต่างๆ มีตะกอ  ตั้ง 10 – 60 ตะกอ ผ้ายกดอกมีความสวยงาม เนื้อแน่น สม่ำเสมอ ใช้ไหมคุณภาพดี


ผ้าทอมือลายขัด (พื้นเรียบ)
          ผ้าทอมือลายขัด เป็นผ้าพื้นเมืองสุรินทร์ โดยประยุกต์ลายมาจากผ้าพื้นเรียบเป็นผ้าพื้น 2 ตะกอ (ลายขัดพื้นฐาน) เส้นยืนสีดำ หมายถึง ความเป็นสามชนเผ่าของชาติพันธ์เขมร ลาว ส่วย เส้นพุ่งใช้สีพื้น สีชมพู หมายถึง ความปรองดองสมัครสมานสามัคคีของชาวอำเภอจอมพระ การทอชายผ้ายังคงอนุรักษ์การทอหน้านาง ที่เป็นชายจั๋วทางสามเหลี่ยม (ภาษาเขมร เรียก เจียยจั๋ว) ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของผ้าทอชาวเขมรในสมัยโบราณ


ผ้าไหมมัดหมี่
          เป็นผ้าไหมที่ทอจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นผ้าไหมมัดหมี่ยกดอก ลวดลายสวยงาม มีหลายตะกอ ลวดลายเป็นเอกลักษณ์สื่อถึงความเป็นมาของลวดลาย